การมาของ COVID-19 ทำให้เกิดพฤติกรรม “Stay at Home” และด้วยข้อจำกัดในการใช้ชีวิตประจำวันนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงไปสู่ความต้องการในการบริโภคสินค้า และบริการทางออนไลน์ที่สูงขึ้น ซึ่งรวมไปถึงความบันเทิงด้วยเช่นกัน “เกมออนไลน์” เป็นหนึ่งในความบันเทิงยอดนิยมในช่วงปี 2020 โดยถ้าวัดกันเฉพาะจำนวนผู้เล่น ในปีที่ผ่านมาประชากรทั้งหมดบนโลกมีจำนวนทั้งสิ้น 7.8 พันล้านคนเป็นผู้เล่นเกมสูงถึง 2.7 พันล้านคน หรือ 35% ของประชากรโลกทั้งหมด และ “เกมเมอร์” หน้าใหม่เพิ่มขึ้นถึง 135 ล้านคน ไม่เพียงแค่นั้นผลจากการ Lockdown ประเทศทั่วโลกส่งผลให้หลายธุรกิจได้รับผลกระทบเชิงลบ แต่ธุรกิจเกมกลับสามารถสร้างรายได้สูงถึง 159,300 ล้านเหรียญสหรัฐ โดย 50% นั้นมาจากธุรกิจเกมมือถือนั่นเอง
เมื่อพูดถึงเกมออนไลน์แล้ว ตลาดที่ใหญ่ที่สุดของธุรกิจนี้ไม่ได้ไปไหนไกล เพราะภูมิภาคที่ครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดถึง 50% ก็คือ Asia-Pacific ทั้งยังโดดเด่นด้วยการเติบโตเกือบ 10% ในช่วงการระบาดของ COVID-19 ในขณะที่ทางสหรัฐฯ มีสัดส่วนของตลาดเพียง 25% และ ขยายตัวในปีที่แล้วอยู่ที่ 8.5% ธุรกิจแห่งความสนุกนี้ไม่ได้จะเติบโตได้แค่เพียงช่วง COVID-19 เท่านั้น หากแต่ยังมีแนวโน้มที่จะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ภายในปี 2023 จำนวนผู้เล่นเกมทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นจนไปเเตะที่ 3.07 พันล้านคน แนวโน้มการเติบโตอยู่ที่ 5.6% ต่อปี และแน่นอนว่า Asia-Pacific จะยังเป็นภูมิภาคที่ครองสัดส่วนผู้เล่นสูงถึง 55% อีกทั้งในอุตสาหกรรมนี้จะมีมูลค่าการจับจ่ายใช้สอยที่สูงกว่า 200,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ
(ที่มา : 2020 Global Game Market Report, NEWZOO)
จากแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจเกมข้างต้น เป็น “โอกาส” ที่นักลงทุนไทยไม่ว่าจะเป็นคนที่เล่นเกมหรือไม่ล้วนไม่ควรมองข้าม เพราะสามารถที่จะเข้าไป “ลงทุนกับธุรกิจเกม” ผ่าน “กองทุนหุ้นเทคในภูมิภาค Asia-Pacific” ที่นอกจากยืนหนึ่งในด้านของส่วนแบ่งการตลาดที่สูงที่สุด และมีจำนวนของผู้เล่นในตลาดเกมมากเป็นอันดับหนึ่งแล้ว ยังเป็นที่ตั้งของบริษัทเทคที่เป็นเจ้าตลาดอย่าง
“Tencent” บริษัทที่มีรายได้จากธุรกิจเกมสูงที่สุดในโลกที่เข้าไปลงทุนในเกมชื่อดังอย่าง PUBG, League of Legends (LoL) หรือ Call of Duty นอกจากนี้ยังเป็นผู้พัฒนาเกมอย่าง RoV ที่โด่งดังจนเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย อีกทั้งยังมีจำนวนผู้เล่นเพิ่มมากขึ้นถึง 72% และ มีการเติมเงินเข้าเกมเพิ่มขึ้นกว่า 120%
* หมายเหตุ : ซึ่งตัวเกม RoV ได้บริษัท SEA บริษัท holding ของ Garena นำเข้ามาบุกตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จนประสบความสำเร้จ
** Tencent ได้เข้าซื้อบริษัทเกมรายใหญ่ของ finland ชื่อ supercell เจ้าของเกมอย่าง Hayday, Clash Royal และ Clash of Clan ส่งผลให้เกมชื่อดัง 3 เกมนี้ เป็นเกมของบริษัท Tencent ด้วยนั่นเอง
“Nintendo” บริษัทผู้ผลิตเครื่องเกม Console ในตำนานของประเทศญี่ปุ่นที่ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาสร้างรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปี 2020 (เม.ย. - ก.ย. 2020) สามารถทำรายได้เพิ่มขึ้นถึง 73% สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทจากความนิยมของเครื่อง Nintendo Switch
จะเป็นได้ว่า “เกมออนไลน์” ในปัจจุบันไม่ใช่เพียงแค่ความสนุก ผ่อนคลายเฉย ๆ แล้ว แต่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขัน กีฬา อีกทั้ง เป็นโอกาสในการลงทุนดาวเด่นดวงหนึ่งของบริษัทเทคโนโลยีในเอเชียเลยทีเดียว ที่เหล่าบรรดานักลงทุนไม่ว่าจะเป็นสายเกมเมอร์ หรือ ไม่เคยเล่นเกมเลยก็ไม่ควรมองข้ามการเติบโตอย่างมหาศาลของธุรกิจนี้ค่ะ
บทความโดย : บลจ. กสิกรไทย
โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
กองทุนเปิด เค เอเชีย เทคโนโลยี หุ้นทุน (K-ATECH)
จุดเด่น
- เน้นลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีทั่วเอเชีย JPMorgan Pacific Technology - Class C (acc) – USD
- ครอบคลุม 5 ธีมเทคสุดล้ำที่ได้แรงหนุนจากผู้บริโภคทั่วโลก
- ครบทุกหุ้นเทคเอเชียชื่อดัง อาทิ TSMC, Samsung, Sea, Blilibili, Nintendo, ฯลฯ
- ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนจากหุ้นเทคโนโลยีในเอเชีย
- กองทุนหลักมีผลการดำเนินงานโดดเด่น 1 ใน 10 จากทั้งหมด 267 กองทุนหุ้นเทคทั่วโลก*
* เทียบในกลุ่ม Morningstar EAA OE Sector Equity Technology ผลตอบแทน 1 ปีย้อนหลัง ณ 28 ก.พ. 64 **ที่มา: Morningstar ณ 28 ก.พ. 64