ทุก ๆ  10 ปี โลกของเรามักจะมีอะไรให้เซอร์ไพรส์อยู่เสมอ ซึ่งวิกฤต COVID-19 ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิกฤตที่ทั่วโลกกำลังประสบอยู่ แต่หากมองดี ๆ แล้วทุกวิกฤตย่อมนำพาโอกาสเสมอ หนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนของประเทศที่พลิกวิกฤตเป็นโอกาส คือ ประเทศจีน เพราะถึงแม้ว่าจีนจะถูกมองว่าเป็นจุดเริ่มของการแพร่ระบาดครั้งใหญ่นี้ แต่วิกฤตครั้งนี้ก็เป็นโอกาสในการทำให้นานาชาติเห็นถึงความก้าวล้ำของเทคโนโลยีจีน และ ความพร้อมในการแก้ปัญหาที่ไม่เป็นรองประเทศใดในโลก 

        จีนสามารถปรับนโยบายเพื่อรองรับการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้เป็นอย่างดีสะท้อนผ่านการควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งการผลักดันทิศทางของประเทศไปสู่เศรษฐกิจใหม่ที่เน้นนวัตกรรมอย่างสร้างสรรค์ผ่านเทคโนโลยีล้ำยุค เช่น AI และ 5G ส่งผลให้เศรษฐกิจจีนพลิกกลับมาเติบโตได้ในปี 2563 โดยกลับมาขยายตัว 2.3% อีกทั้งยังผันตัวจากเดิมที่เป็นผู้ผลิตเน้นพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก เปลี่ยนเป็นผู้บริโภคด้วยกำลังซื้อมหาศาล จากจำนวนประชากรที่มากเป็นอันดับหนึ่งของโลกที่สามารถเข้าถึงการบริโภคโดยใ​ช้เทคโนโลยีเป็นตัวขับดัน ประกอบกับแผนปฏิรูปทางเศรษฐกิจของทางภาครัฐ ที่มุ่งเน้นการลดความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยและคนจน เพิ่มรายได้ต่อหัวของประชากรภายในประเทศ

        เมื่อประชากรมีรายได้ต่อหัวเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของประเทศ ทำให้เกิดการพัฒนาในการเลือกสินค้าที่มีรสนิยม เช่น สุราขาวคุณภาพดีที่เป็นที่นิยม อย่าง Kweichow Moutai มียอดขายที่เติบโตตามรายได้ของประชาชนที่ดีขึ้น นอกจากนี้ความต้องการดูแลสุขภาพก็สูงขึ้น ซึ่งบริษัทประกันชั้นนำ อย่าง Ping An Insurance Group ก็ได้ประโยชน์ไปกับการเติบโตนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งจากการเติบโตนี้ทำให้ตลาดหุ้นจีน A-Shares กลายเป็นที่น่าจับตามองของบรรดานักลงทุนจากทั่วโลกที่มองเห็นโอกาสจากการเติบโตของกำลังซื้อมหาศาล และนั้นคือสาเหตุที่ธนาคารกสิกรไทยจะแนะนำกองทุนที่มุ่งเน้นการลงทุนในหุ้นจีน A-Shares (ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ และ เซินเจิ้น) ที่มีมูลค่าตลาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ กับ กองทุนเปิดเค ไชน่า คอนโทรล โวลาติลิตี้ (K-CCTV)

​​

​