THE PREMIER Next ISSUE 64 : OCTOBER 2022

THE PREMIER Next ISSUE 64 : OCTOBER 2022

​​​​Highlight : 
    • นักลงทุนที่วางแผนลงทุนต้นปีหน้า อาจจะไม่ได้ราคาที่ดี แต่ถ้าลงทุนช่วงที่เหลือจากนี้ อาจจะได้ราคาที่ดีกว่า โดยรลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน (Dollar Cost Average : DCA) และกระจายลงทุน จัดสัดส่วนของพอร์ต (Asset Allocation) ให้เหมาะกับความเสี่ยงที่สามารถรับได้ 
    • จังหวะสะสมกองทุนหุ้นดีให้ได้ราคาถูก ต้องลงทุนในช่วงตลาดหมี
    • แม้เป็นช่วงตลาดหมี ก็ยังควรต้องลงทุน เพื่อให้ได้ประโยชน์ทางภาษี โดยสามารถเลือก SSF/RMF ที่ลงทุนครอบคลุมครบทุกสินทรัพย์ ถ้าไม่มั่นใจก็เลือก SSF/RMF ที่มีความเสี่ยงต่ำหรือปานกลาง


วางกลยุทธ์การลงทุน รับมือช่วงตลาดผันผวนปลายปี 65


ก้าวเข้าสู่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 ช่วงเวลาปลายปีที่เรียกได้ว่าเป็นโค้งสุดท้ายของการวางแผนลดหย่อนภาษี ไม่ว่าจะด้วยวิธีจ่ายเบี้ยประกันชีวิตหรือสุขภาพ, ดอกเบี้ยลดหย่อนจากการซื้ออสังหาฯเพื่ออยู่อาศัย, การลงทุนในกองทุน หรือ การบริจาคให้หน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งในปีนี้ราคาสินทรัพย์ และ กองทุนในตลาดปรับตัวลงกันพอสมควร ทำให้สามารถเลือกลงทุนได้หลากหลายมากขึ้นกว่าปีที่ผ่าน ๆ มา




กองทุน - หุ้นดีราคา​ถูก ต้องลงทุนในช่วงตลาดหมี


​“ตลาดหมี” เป็นศัพท์เฉพาะในแวดวงตลาดหลักทรัพย์ จะเกิดขึ้นเมื่อมูลค่าการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ตกต่ำ ดัชนีราคาหุ้นลดลงกว่า 20% จากมูลค่าสูงสุดครั้งล่าสุด และดำเนินต่อเนื่องเกิน 2 เดือน หมายความว่า นักลงทุนพากันเทขายหุ้น แล้วนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยกว่า หรือ ฝากธนาคารนั่นเอง


ลงทุนตอนนี้ทันหรือไม่? น่าจะเป็นคำถามที่เกิดขึ้นทุก ๆ ปี ซึ่งพูดได้เลยว่ายังทัน โดยวิธีที่อยากแแนะนำ คือ วิธีการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน (Dollar Cost Average : DCA) ด้วยการแบ่งเงินลงทุนออกเป็นอย่างน้อย 2 – 3 ก้อน โดยมีสาเหตุ คือ
    • เพื่อให้ได้ค่าเฉลี่ยที่ไม่แพงเกินไป
    • ลดความผันผวนของราคาได้
นอกจากนี้ ควรกระจายลงทุน จัดสัดส่วนของพอร์ต (Asset Allocation) ให้เหมาะกับความเสี่ยงที่สามารถรับได้เพื่อตอบโจทย์ทั้งลดหย่อนภาษี และ ผลตอบแทนที่ต้องการ



ในช่วง 3 เดือนหลังจากนี้ น่าจะเป็นช่วงราคาที่ดีที่สุดของปี จึงแนะนำให้แบ่งเงินออมเป็นเดือนละครั้ง โดยเฉพาะ ผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง โดยมีสาเหตุ คือ
    • ราคาสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้น ปรับตัวลดลง
    • การลงทุนในหุ้นของประเทศฝั่งเอเชียมีความน่าสนใจที่สุด เพราะ
        • มีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่ง
        • มีค่าแรงขั้นต่ำถูกกว่า และ จำนวนประชากรเยอะกว่าครึ่งโลก ทำให้กลายเป็นฐานการผลิตที่สำคัญ
        • มีความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีในตลาดโลกมากขึ้น (*)

​10 บริษัทผู้นำเทคโนโลยีที่มีมูลค่าสูงที่สุดในตลาดโลก มีบริษัทจากเอเชียถึง 3 บริษัท ได้แก่
    • TSMC ประเทศไต้หวัน อันดับที่ 7 ของโลก
    • Tencent ประเทศจีน อันดับที่ 8 ของโลก
    • Samsung ประเทศเกาหลีใต้ อันดับที่ 10 ของโลก

        ในขณะที่ระดับราคาดัชนี Asia Ex. Japan ถูก โดยมีราคาต่อกำไรคาดการณ์ (Forward P/E) เพียง 12 เท่า หากเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ อย่างดัชนี MSCI World มี Forward P/E ที่ 14 เท่า (ข้อมูล ณ 14 ก.ย. 2565) 



หากไม่มั่นใ​จตลาดหมี SSF/RMF คือ ทางเลือกที่ปลอดภัย

สำหรับท่านที่รับความเสี่ยงได้น้อย อาจมีความกังวลว่าพอร์ตจะติดลบในตลาดหมีแบบนี้ ดังนั้นตัวเลือกการลงทุนอย่าง SSF และ  RMF เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะสามารถปรับแผนได้ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้ในกองทุนประเภทเดียวกัน เพราะ มีโอกาสเกิดเศรษฐกิจถดถอยในช่วง 12 เดือนข้างหน้า โดยเฉพาะฝั่งสหรัฐฯ หรือ ยุโรป สาเหตุจาก
    • ค​วามร้อนแรงของสถานการณ์เงินเฟ้อที่สูงสุดในรอบ 40 ปี
    • ธนาคารกลางทั่วโลกต่างใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวด ด้วยการขึ้นดอกเบี้ย และ ดึงเงินออกจากระบบ

อย่างไรก็ตามหากตลาดหุ้นผันผวนการปรับตัวลงแรง สามารถสับเปลี่ยนลงทุนใน SSF / RMF ได้เพิ่มเติมอีกในอนาคต

ส่วนนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง ไม่อยากปรับพอร์ตการลงทุนระหว่างทาง อาจเลือกลงทุนในกองทุนผสม ที่มีนโยบายเปิดกว้าง ลงทุนหลายสินทรัพย์ โดยสามารถให้ผู้จัดการกองทุนแนะนำ ปรับพอร์ตให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปได้

กองทุนแนะนำที่เกี่ยวข้อง
สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง



K-CHINA-SSF และ KCHINARMF
กองทุนเปิดเค ไชน่า หุ้นทุน
รายละเอียดกองทุน
  


K-CHINA-SSF​

​KCHINARMF


​ทำไมต้องเลือก K-CHINA จากกสิกรไทย
ลงทุนในหุ้นจีนที่จดทะเบียนในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก (All China) เน้นหุ้นกลุ่มเศรษฐกิจใหม่ (New Economy) ที่ได้ประโยชน์จากแผนพัฒนาเศรษฐกิจจากรัฐบาล เช่น
    • กลุ่มเทคโนโลยี
    • กลุ่มลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์
    • กลุ่มอุปโภคบริโภค
    • กลุ่มสุขภาพ
ผ่าน กองทุนหลัก JPMorgan Funds – China Fund, Class JPM China I (acc) – USD โดยกองทุนหลักติดอันดับ 5 ดาว Morningstar (ข้อมูล ณ 31 พ.ค.2565)



KVIETNAMRMF
กองทุนเปิดเค เวียดนาม หุ้นทุน เพื่อการเลี้ยงชีพ

​​ซื้อกองทุนง่าย ๆ บน KPLUS​


ทำไมต้องเลือก KVIETNAMRMF จากกสิกรไทย
    • ​ลงทุนตรงกับหุ้นเวียดนามชั้นนำ โดยมีผลตอบแทนโดดเด่นเอาชนะดัชนีชี้วัดอย่างสม่ำเสมอ

เหมาะสำหรับใคร
    • เชื่อมั่นในการเติบโตของเศรษฐกิจเอเชียและคาดหวังผลตอบผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นของธุรกิจฝั่งเอเชีย เช่น จีน หรือ เวียดนาม
    • รับความเสี่ยงได้สูง โดยรับความผันผวนของราคาหุ้นที่อาจปรับตัวสูงขึ้นหรือลดลงจนทำให้ขาดทุนได้ 
    • ยอมรับความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้
    • SSF : ยอมรับเงื่อนไขเกี่ยวกับการลงทุนในกองทุน SSF โดยจะต้องถือหน่วยลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุน
    • RMF : ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาวเพื่อใช้ในวัยเกษียณ โดยผู้ลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี เมื่อปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน

สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง



K-GINCOME-SSF
กองทุนเปิดเค โกลบอล อินคัม ชนิดเพื่อการออม

​​ซื้อกองทุนง่าย ๆ บน KPLUS​

​​
ทำไมต้องเลือก K-GINCOME-SSF จากกสิกรไทย
    • กระจายลงทุนหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลกกว่า 3,000 ตัว ได้ทั้งหุ้น และ ตราสารหนี้ ไม่ต้องจัดพอร์ตเอง
    • เน้นสินทรัพย์ที่จ่ายผลตอบแทนสม่ำเสมอ เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในทุกสภาวะตลาดแม้ช่วงวิกฤต ช่วยลดความผันผวนในการลงทุนระยะยาว 
    • ลงทุนผ่านกองทุนหลัก JPMorgan Investment Funds – Global Income Fund, Class I (mth) - USD (hedged)

เหมาะสำหรับใคร?
    • ต้องการกระจายการลงทุนในหุ้น และ ตราสารหนี้ทั่วโลก
    • รับความเสี่ยงได้ปานกลาง โดยรับความผันผวนของราคาหุ้นที่อาจปรับตัวสูงขึ้นหรือลดลงจนทำให้ขาดทุนได้ 
    • ยอมรับความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้
    • ต้องการได้รับเงินปันผลระหว่างการลงทุน
    • ยอมรับเงื่อนไขเกี่ยวกับการลงทุนในกองทุน SSF โดยจะต้องถือหน่วยลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก KAsset

Disclaimer : “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”

บทความโดย
K-Expert วันวิสาข์ อรุมชูตี AFPT™
ฝ่ายพัฒนาการให้คำปรึกษาลูกค้า