“กองทุน SSF พิเศษ” คือ กองทุนลดหย่อนภาษีที่ส่งเสริมการออมเงินระยะยาว ซึ่งเป็นมาตรการทางภาษีที่ภาครัฐออกมาเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในระบบตลาดทุน โดยให้สิทธินักลงทุนที่ซื้อกองทุน SSF พิเศษในช่วงเวลาที่กำหนดสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท ซึ่งสิทธินี้แยกต่างหากจากกองทุน SSF ปกติ จึงทำให้นักลงทุนลดหย่อนภาษีได้มากขึ้น โดยกองทุน SSF พิเศษแตกต่างจากกองทุน SSF ปกติดังนี้
| กองทุน SSF พิเศษ
| กองทุน SSF ปกติ
|
นโยบายการลงทุน
| ลงทุนในหุ้นไทยไม่น้อยกว่า 65%
| ลงทุนในสินทรัพย์ได้ทุกประเภท
|
สิทธิที่สามารถซื้อได้
| สูงสุด 200,000 บาท โดยไม่อิงตามรายได้ของคนซื้อ และไม่นับรวมกับกลุ่มออมเงินเพื่อเกษียณ*
| 30% ของรายได้ทั้งปีที่ต้องเสียภาษี สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท
(และเมื่อรวมกับกลุ่มออมเงินเพื่อเกษียณ* แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท)
|
ช่วงเวลาในการซื้อกองทุน
| 1 เม.ย. – 30 มิ.ย. 63
| ภายใน 30 ธ.ค. 63
|
ขั้นต่ำในการซื้อกองทุน
| ไม่มีขั้นต่ำ และ ไม่ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี
|
*กลุ่มออมเงินเพื่อเกษียณ ได้แก่ กองทุน SSF ปกติ กองทุน RMF กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) หรือ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และ ประกันบำนาญ
ใครเหมาะที่จะซื้อกองทุน SSF พิเศษ มีเรื่องที่อยากให้พิจารณาก่อนตัดสินใจดังนี้
- คนที่ยังไม่มีแผนใช้เงินที่จะนำมาลงทุนในกองทุน SSF พิเศษในอีก 10 ปีข้างหน้า และ มั่นใจว่าจะสามารถถือหน่วยลงทุนจนครบกำหนดได้ โดยไม่มีปัญหาเรื่องสภาพคล่องจนต้องขายหน่วยลงทุนก่อนครบกำหนด
- คนที่อายุน้อยกว่า 45 ปี เมื่อคำนวณระยะเวลาในการลงทุนแล้ว การซื้อกองทุน SSF พิเศษก็น่าจะเหมาะกว่ากองทุน RMF เพราะ ระยะเวลาลงทุนสั้นกว่า
- คนที่รับความเสี่ยงได้สูง เพราะนโยบายการลงทุนในกองทุนนี้คือ ต้องลงทุนในหุ้นไทยไม่น้อยกว่า 65% และ ไม่สามารถสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุน SSF ปกติได้ จะสับเปลี่ยนได้เฉพาะในกลุ่ม SSF พิเศษด้วยกันเท่านั้น
- คนที่มีรายได้ต่อเดือนอยู่ที่ 80,000 – 100,000 บาทขึ้นไป คือ ฐานภาษีตั้งแต่ 20% ขึ้นไป เนื่องจากหากเฉลี่ยผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการประหยัดภาษีเมื่อเทียบกับระยะเวลาในการลงทุนอยู่ที่ปีละ 2% (20% ÷ 10 ปี) จึงน่าสนใจที่จะลงทุน
หากใครต้องการซื้อกองทุน SSF พิเศษนี้ K-Expert แนะนำให้ทยอยซื้อเดือนละครั้งในช่วงเดือนเม.ย. – มิ.ย. และ ขายคืนพร้อมกันทีเดียวตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 73 เป็นต้นไป เพื่อป้องกันการขายคืนผิดเงื่อนไขนั่นเอง
ทางบลจ.กสิกรไทย ได้ออกกองทุน SSF พิเศษ ได้แก่ “กองทุนเปิดเค ซูเปอร์สตาร์ เพื่อการออมพิเศษ (K-SUPSTAR-SSFX)” ความเสี่ยงระดับ 6 ซึ่งมีนโยบายการลงทุนในหุ้นไทย โดยเน้นลงทุนในหุ้นใหญ่ พื้นฐานดี ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับกองทุน K-STAR-A(R) ที่เป็นกองทุนหุ้นปกติของ บลจ.กสิกรไทย ซึ่งจดทะเบียนกองทุนมาตั้งแต่เดือนพ.ค. 49 และปัจจุบันได้รับการจัดลำดับ 5 ดาวจาก Morningstar Rating™ อีกด้วย (ข้อมูล ณ 30 มี.ค. 63)
กองทุน SSF พิเศษถือเป็นตัวช่วยลดหย่อนภาษีที่น่าสนใจสำหรับคนที่กำลังมองหาตัวช่วยลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมในปีนี้เพราะหากซื้อกองทุน SSF พิเศษเต็มสิทธิ 200,000 บาท รวมถึงซื้อกองทุน SSF ปกติ และ RMF เต็มสิทธิรวมกัน 500,000 บาท รวมทั้งหมดแล้วจะสามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้สูงสุดถึง 700,000 บาท ทั้งนี้ อยากให้ลองศึกษานโยบายการลงทุน รวมถึงรายละเอียดเงื่อนไขต่างๆ ให้เข้าใจก่อน เพื่อไม่ให้ผิดเงื่อนไขการลงทุนและได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีสูงสุดนั่นเอง
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง: