​​​        

        ช่วงปลายปีนี้ แน่นอนว่าใคร ๆ ก็อยากจะเริ่มแพลนเดินทางไปเที่ยวกัน ยิ่งหยุดยาว ๆ แล้วหลายคนก็มักจะเลือกเดินทางออกนอกประเทศเพื่อการพักผ่อน หรือ ไปเที่ยวกับครอบครัว ดังนั้น การเลือกประเทศจุดหมายปลายทางนั้นมักมาจากความชอบ ความต้องการไปยังจุดหมายปลายทางใหม่ ๆ หรือ เลือกตามงบประมาณหรือการจัดโปรโมชันราคา แต่ที่สำคัญ มีปัจจัยหนึ่งที่เรามักจะพูดอยู่เสมอ ๆ ก่อนจะเลือกประเทศเที่ยวนั่นคือ เลือกตาม “ค่าเงิน” นั่นเอง

        แน่นอนว่าในปีที่ผ่านมาค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหมายความว่า ไปเที่ยวแล้วคุ้มขึ้นเพราะเท่ากับว่าเราใช้เงินจำนวนเท่าเดิม แต่จะแลกเงินของประเทศปลายทางได้เพิ่มขึ้น และ เมื่อเปรียบเทียบอัตราแลกเปลี่ยนของประเทศต่าง ๆ ในปี 2561 เทียบกับปี 2562 พบว่า ในทุกประเทศหลักนั้น เงินบาทแข็งค่าขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน ประเทศแถบสแกนดิเนเวียอย่าง สวีเดน นอร์เวย์ ตามมาด้วยประเทศในแถบยุโรปตะวันออกอย่าง ฮังการี เช็ก โปแลนด์ ส่วนประเทศยอดนิยมสำหรับชาวไทยอย่าง ญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน หรือ เวียดนาม ที่เป็นน้องใหม่มาแรงสำหรับนักเดินทาง ค่าเงินบาทก็แข็งค่าขึ้นเช่นกัน แต่อาจจะน้อยกว่าหน่อย อย่างไรก็ดี ถือว่ายังเหมาะกับการจัดกระเป๋าเดินทางไปเยือน

        การเดินทางจะเป็นไปได้สวยมากยิ่งขึ้นหากเราลองศึกษาเพิ่มเติมว่า ประเทศที่จะไปนั้นบางฤดูกาลสภาพอากาศเป็นอย่างไร การติดตามข่าวสถานการณ์บ้านเมืองของประเทศที่จะไปก็สำคัญ เพราะหลายครั้งที่บางประเทศอาจมีความไม่สงบทางการเมือง พายุเข้า แผ่นดินไหว เป็นต้น ทั้งนี้ ก็เพื่อความปลอดภัยระหว่างเดินทาง และ ความสุขใจในการท่องเที่ยวอีกด้วย