ในเดือนที่ผ่านมาการทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ของบริษัทจดทะเบียนออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยผลประกอบการในภาพรวมออกมาดีกว่าที่คาด ขณะที่รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่จัดทำโดย IMF ล่าสุดเดือนเมษายน 2019 สะท้อนการคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะชะลอลงแต่ไม่ถดถอย โดยมีการปรับประมาณการอัตราการเติบโตเศรษฐกิจ (GDP growth) ของสหรัฐฯ ที่เคยจัดทำไว้เมื่อเดือนมกราคม 2019 โดยปรับลด GDP growth ปีนี้ลงจาก 2.5% เป็น 2.3% ด้วยเหตุผลทางด้านผลกระทบของการชัตดาวน์ที่ยืดเยื้อมาถึงช่วงต้นปีที่ผ่านมา รวมไปถึงแนวโน้มการออกมาตรการกระตุ้นการคลังที่คาดว่าจะลดลงจากการเป็นสภาผสม แต่มีมุมมองที่ดีในปี 2019 ได้ปรับเพิ่มประมาณการ GDP growth ขึ้นจาก 1.8% เป็ น 1.9% เพราะท่าที FED ที่ลดความแข็งกร้าวลงในการดำเนินนโยบายด้านการเงิน
หุ้นยุโรปโดยรวมปรับตัวขึ้นตามหุ้นโลก แต่รัฐบาลเยอรมันปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ GDP ลงเหลือเพียง 0.5% สำหรับปี 2019 นับเป็นครั้งที่ 2 ที่เยอรมันปรับลดตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจในปีนี้ จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 1.8% และมีการปรับลดครั้งแรกสู่ระดับ 1% ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา เพราะภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และ ประเทศคู่ค้า รวมทั้งความ ไม่แน่นอนเกี่ยวกับ Brexit
หุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ และ หุ้นฮ่องกงปรับตัวขึ้น GDP ของจีนที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดและตัวเลข PMI เดือน มี.ค. ออกมาดีกว่าก่อนหน้านี้ รวมถึงตัวเลขดัชนีการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้นมากที่สุดในรอบ 5 ปี ในขณะที่การเจรจาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะมีการหารือของผู้นำทั้งสองประเทศอีก 2 รอบ โดยคาดว่าจะสิ้นสุดอย่างเร็วที่สุดคือ 27 พ.ค.
หุ้นไทยเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 1 ของปี 2019 โดยกลุ่มธนาคารส่วนใหญ่ออกมาต่ำากว่าคาดเล็กน้อย ผลประกอบการของ SET ในกลุ่มอื่น ๆ โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน ค้าปลีก และ ท่องเที่ยวที่ถือเป็นกลุ่มมีน้ำหนักใหญ่ใน SET Index น่าจะออกมาดี และ ช่วยให้ SET Index ปรับตัวขึ้นได้ เพราะจากราคาน้ำมันที่ได้ปรับตัวขึ้นมาตั้งแต่ต้นปีกว่า 40% ช่วยให้ผลประกอบการในกลุ่มพลังงานออกมาดี อีกทั้งมาตรการจากทางภาครัฐที่ออกมากระตุ้นการใช้จ่ายโดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีรายได้น้อยในช่วงต้นปีที่ผ่านมาช่วยส่งผลต่อกลุ่มค้าปลีกได้เป็นอย่างดี รวมถึงยอดนักท่องเที่ยวที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่เริ่มกลับมาฟื้นตัวดีตั้งแต่ปลายไตรมาส 3/18 ประกอบกับ Sentiment ทางด้านเศรษฐกิจในจีนเริ่มดูดีขึ้น อีกทั้งเมื่อดูยอดค่าใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวจีนในปี 2018 ปรับขึ้นเฉลี่ย 10% YoY แต่ในภาพรวมเติบโตประมาณ 3% YoY
รายละเอียดกองทุนแนะนำ
กองทุน
| นโยบายการลงทุน
| การจ่ายเงินปันผล
| ความเสี่ยงกองทุน
|
K-SET50
| ลงทุนหุ้นในดัชนี SET50 เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนีผลตอบแทนรวม SET50
| ไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล
| ระดับ 6
|
K-EQUITY
| กองทุนรวมหุ้นที่ลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดีและมีศักยภาพในการเติบโตระยะยาว โดยพิจารณาลงทุนในหุ้นที่มีมูลค่าทางปัจจัยพื้นฐานที่เหมาะสม (Cheap Valuation) พร้อมทั้งมีการกระจายการลงทุนในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อลดความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของการลงทุน ทั้งนี้อาจจะใช้กลยุทธ์การสร้างผลตอบแทนระยะสั้นในสถานการณ์ที่มีความเหมาะสม
| จ่ายเงินปันผลไม่เกินปีละ 2 ครั้ง
| ระดับ 6
|
ผลการดำเนินงานย้อนหลัง (ข้อมูล ณ วันที่ 24 เมษายน 2562)
| 3 เดือน
| 6 เดือน
| 1 ปี
| 3 ปี
| ตั้งแต่ต้นปี
|
K-SET50
| 4.00%
| 5.72%
| -3.54%
| 10.22%
| 7.84%
|
เกณฑ์มาตรฐาน *
| 4.19%
| 6.01%
| -3.08%
| 10.79%
| 8.10%
|
K-EQUITY
| 3.52%
| 3.92%
| -3.64%
| 9.60%
| 7.23%
|
เกณฑ์มาตรฐาน **
| 4.67%
| 4.73%
| -3.45%
| 9.21%
| 8.48%
|
ผลการดำเนินงานช่วงเวลาน้อยกว่า 1 ปี จะแสดงเป็นอัตราผลตอบแทนสะสม ส่วนช่วงเวลา 1 ปีขึ้นไป จะแสดงเป็นอัตราผลตอบแทนต่อปี
* ดัชนีผลตอบแทนรวม SET50 (SET50 TRI)
** ดัชนีผลตอบแทนรวมตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET TRI)
ผลการดำเนินงานในอดีต และ ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และ ความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน เอกสารฉบับนี้ จัดทำขึ้นโดย K-Expert โดยใช้ข้อมูล และ คำแนะนำจากบล.กสิกรไทย และ บลจ.กสิกรไทย
|