คำแนะนำการลงทุน

Investment Recommendation

ด้วยการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด KBank Private Banking พัฒนาบทวิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์การลงทุนที่เรียกว่า K-Alpha Wealth Strategy ซึ่งมุ่งเน้นการสร้างพอร์ตการลงทุนในระยะยาว (Long-Term Investment Portfolio) ในส่วนกระเป๋าสอง เพื่อผลตอบแทนการลงทุนที่สม่ำเสมอ และยั่งยืน

บทวิเคราะห์การลงทุน

K-Alpha Wealth Strategy

K-Alpha Wealth Strategy (หรือ “K-Alpha”) คือคำแนะนำการลงทุนหลักของ KBank Private Banking โดยผสมผสานการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลก มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอ อย่างน้อยชนะเงินเฟ้อและผลตอบแทนส่วนเพิ่มสอดคล้องกับระดับความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนยอมรับได้

คำว่า Alpha ในแง่การลงทุน หมายถึง การสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าตัวชี้วัด หรือดัชนีเทียบเคียง ดังนั้นบทวิเคราะห์ K-Alpha จึงไม่เพียงมุ่งเน้นการสร้างผลตอบแทนที่สูง แต่ยังต้องสูงกว่าค่าเทียบเคียงในตลาดขณะนั้น

คำแนะนำใน

K-Alpha

ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ

การลงทุนหลัก

Core Investment

ระยะเวลาลงทุนมากกว่า 3-5 ปี
จัดเป็นเงินลงทุนส่วนใหญ่ มุ่งเน้นการสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอภายใต้การเปลี่ยนแปลงในวัฏจักรเศรษฐกิจ และการพัฒนาของตลาดการเงิน
เน้นกระจายการจัดพอร์ตการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท ทั่วโลก เพื่อสร้างผลตอบแทนในทุกสภาวะเศรษฐกิจและตลาดการเงิน และเป็นการกระจายความเสี่ยงจากการกระจุกตัวในสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่ง ซึ่งอาจทำให้เกิดการตัดสินใจผิดพลาดจากการตื่นตระหนกหากพบเหตุการณ์ไม่คาดฝัน (Panic Sell)
ตัวอย่างกองทุนที่แนะนำ เช่น K-ALLROAD-UI, K-ALLGROWTH-UI, K-GA

การลงทุนเสริม

Satellite Investment

ระยะเวลาลงทุน 12-18 เดือน
เพื่อสร้างผลตอบแทนจากวัฏจักรเศรษฐกิจระยะสั้นถึงปานกลางหรือรับประโยชน์จากความแตกต่างของมูลค่า ณ ช่วงเวลาหนึ่ง
เน้นสร้างโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงขึ้นในบางช่วงของเศรษฐกิจ หรือธีม (Theme) การลงทุนที่เกิดขึ้น ณ ขณะใดขณะหนึ่ง
กระจายสัดส่วนลงทุนตามประเภทกลยุทธ์ เช่น Growth, Income, และ Uncorrelated โดยตัวอย่างกองทุนที่แนะนำ เช่น K-HIT, K-CHANGE, K-APB

หลักการกระจายการลงทุนด้วยการพิจารณาความเสี่ยง

Risk-Based Asset Allocation

ในแง่การจัดสรรเงินลงทุน KBank Private Banking ใช้หลักการ Risk-Based Asset Allocation หรือการใช้ระดับความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนรับได้เป็นตัวตั้งต้น และใช้ข้อมูลความเสี่ยงโดยเปรียบเทียบของสินทรัพย์แต่ละประเภทในการจัดพอร์ต และปรับสัดส่วนการลงทุน
Risk-Based Asset Allocation จะมีความยืดหยุ่นในการกำหนดสัดส่วนการลงทุนในแต่ละสินทรัพย์ เนื่องจากสัดส่วนในการลงทุนจะเปลี่ยนแปลงไปตามภาวะตลาด และความเสี่ยงของสินทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงไป
ด้วยหลักการดังกล่าว KBank Private Banking จึงวางแผนกระจายสินทรัพย์เพื่อจัดพอร์ตการลงทุนโดยการพิจารณาความเสี่ยงของสินทรัพย์ด้วยข้อมูลสถิติเป็นหลัก ซึ่งในระยะยาว ผลตอบแทนของสินทรัพย์ทุกประเภทจะขึ้นกับวัฎจักรเศรษฐกิจในอัตราที่ไม่เท่ากัน
ดังนั้นความสำเร็จของการสร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอ ในทุกสถานการณ์ คือการ “บริหารจัดการความเสี่ยง”

การลงทุนผสมผสาน

Traditional Asset Allocation

หลักการสำคัญที่ KBank Private Banking ใช้เพื่อจัดการความเสี่ยงของการลงทุนคือการลงทุนผสมผสาน (Traditional Asset Allocation) ที่กระจายความเสี่ยงด้วยการลงทุนในหลากหลายประเภทสินทรัพย์ เพื่อให้เกิดการหักกลบความเสี่ยงที่เกิดจากความผันผวนของสินทรัพย์ต่างประเภท
การทำ Asset Allocation จำเป็นต้องใช้เวลา และทรัพยากรในการดำเนินการค่อนข้างมาก แต่สำหรับลูกค้า KBank Private Banking กลยุทธ์การลงทุนบนหลักการทั้งหมดถูกสรุปมาในรูป K-Alpha Wealth Strategy ดังนั้นท่านไม่ต้องยุ่งยากดำเนินการเอง

ย้อนกลับ

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ่านบทความทั้งหมด