ผู้ที่เป็นเจ้าของธุรกิจทั้งหลายเห็นด้วยมั้ยว่า กรรมการหรือผู้บริหารถือเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจ เพราะเป็นผู้ที่สร้างเงิน สร้างกำไรให้กับธุรกิจ โดยถ้ามีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับบุคคลเหล่านี้ ย่อมส่งผลกระทบต่อธุรกิจของเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งแนวทางที่ช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ก็คือ การทำประกันบุคคลสำคัญ หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า ประกัน Keyman รายละเอียดเป็นอย่างไร K-Expert มีข้อมูลมาฝากค่ะ
ค่าเบี้ยประกันสามารถหักเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทได้หรือไม่
บริษัทที่ชำระค่าเบี้ยประกัน Keyman ให้กรรมการ สามารถนำค่าเบี้ยประกันมาหักเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทได้ทั้งจำนวน โดยกรรมการต้องนำค่าเบี้ยประกันดังกล่าวมารวมเป็นเงินได้เพื่อคำนวณภาษีบุคคลธรรมดาในปีที่มีการชำระค่าเบี้ยประกันให้
ทั้งนี้ กรรมการสามารถนำค่าเบี้ยประกันของกรมธรรม์ที่มีความคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป มาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ตามจำนวนเบี้ยที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท หรือถ้าเป็นประกันชีวิตแบบบำนาญ สามารถลดหย่อนได้สูงสุด 15% ของเงินได้พึงประเมินที่ได้รับซึ่งต้องเสียภาษีในปีนั้น สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับเงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และเงินค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท อย่างไรก็ตาม เมื่อกรรมการต้องนำค่าเบี้ยประกันมารวมเป็นเงินได้ อาจทำให้กรรมการต้องจ่ายภาษีสูงขึ้น ซึ่งบริษัทก็สามารถจ่ายภาษีให้กับกรรมการได้
ใครสามารถเป็นผู้รับประโยชน์ของประกัน Keyman ได้บ้าง
ผู้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์สามารถเป็นบริษัท หรือคนในครอบครัวของกรรมการก็ได้ ซึ่งการจ่ายเงินตามกรมธรรม์มี 2 กรณี คือ
กรณีที่ 1 กรรมการเสียชีวิต: ถ้าผู้รับประโยชน์เป็นบริษัทหรือนิติบุคคล จะต้องนำเงินชดเชยจากประกันมารวมเป็นรายได้ของบริษัท แต่ถ้าผู้รับประโยชน์เป็นคนในครอบครัวของกรรมการหรือเป็นบุคคลธรรมดา จะได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
กรณีที่ 2 กรรมการมีชีวิตอยู่จนครบกำหนดสัญญา: กรรมการจะได้รับเงินตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ โดยไม่ต้องนำมารวมเป็นเงินได้เพื่อคำนวณภาษี
สำหรับเงินจ่ายคืนระหว่างกรมธรรม์ที่จ่ายให้กรรมการซึ่งเป็นผู้เอาประกันนั้น จะได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมารวมเป็นเงินได้เพื่อคำนวณภาษีเช่นกันค่ะ
เมื่อกรรมการลาออก ต้องทำอย่างไร
กรณีที่กรรมการลาออกระหว่างชำระเบี้ยประกัน ถ้ากรรมการต้องการชำระเบี้ยประกันต่อเอง สามารถแจ้งบริษัทประกันเพื่อเปลี่ยนผู้ชำระเบี้ย โดยกรรมการไม่ต้องนำเบี้ยประกันไปรวมเป็นเงินได้ และบริษัทก็ไม่สามารถนำเบี้ยประกันมาหักเป็นค่าใช้จ่ายได้อีก หรือถ้ากรรมการไม่ต้องการส่งเบี้ยประกันต่อ สามารถใช้สิทธิตามที่ระบุในกรมธรรม์ เช่น การเวนคืน การเปลี่ยนเป็นกรมธรรม์ใช้เงินสำเร็จ การแปลงเป็นกรมธรรม์แบบขยายเวลา เป็นต้น
สำหรับกรณีที่ชำระเบี้ยประกันครบแล้ว สามารถคงความคุ้มครองต่อไปตามระยะเวลาของกรมธรรม์ หรือใช้สิทธิตามที่ระบุในกรมธรรม์ได้ค่ะ
จะเห็นได้ว่า การทำประกัน Keyman ให้กับกรรมการหรือผู้บริหาร ช่วยเพิ่มความมั่นคงให้กับบริษัทเมื่อต้องสูญเสียบุคคลสำคัญนี้ไป เป็นการวางแผนด้านการเงินให้กับบริษัท โดยสามารถนำเบี้ยประกันมาหักเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทได้ทั้งจำนวน และที่สำคัญเป็นสวัสดิการแก่กรรมการหรือผู้บริหาร สร้างขวัญกำลังใจทำให้รักองค์กรมากขึ้นด้วยค่ะ