K WEALTH /
บทความ /
Market Update / ประเด็นร้อน : จังหวะดี! กองทุนเวียดนามส่งสัญญาณบวกระยะสั้น
2 นาที
ประเด็นร้อน : จังหวะดี! กองทุนเวียดนามส่งสัญญาณบวกระยะสั้น
“
● 16 และ 17 พ.ย. ตลาดหุ้นเวียดนามฟื้นตัวกลับมาในแดนบวก โดยมีแรงซื้อกลับมาหลังจากที่ตลาดคลายความกังวลที่ตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ (HOSE) ถูกถอดออกจากการเป็นสมาชิกสหพันธ์ตลาดหลักทรัพย์นานาชาติ (WFE)
● ผู้ที่ถือกองทุนหุ้นเวียดนาม ยังคงแนะนำถือลงทุนระยะยาว รวมถึงติดตามสถานการณ์ภาคอสังหาริมทรัพย์ การเคลื่อนไหวของค่าเงินด่อง และตัวเลขเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด
“
16 พ.ย. ตลาดหุ้นเวียดนามปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยดัชนี VNI +3.40% ส่วนดัชนี VN30 +3.93% เทียบกับวันก่อนหน้า ส่งผลให้ ณ 16 พ.ย. กองทุน K-VIETNAM K-VIETNAM-SSF และ KVIETNAMRMF ปรับตัวเพิ่มขึ้น +3.91% +3.38% และ +3.75% เทียบกับวันก่อนหน้า ตามลำดับ และในวันต่อมา ณ 17 พ.ย. ตลาดหุ้นเวียดนามก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก โดยดัชนี VNI +2.80% ส่วนดัชนี VN30 +3.27% เทียบกับวันก่อนหน้า ส่งผลให้ ณ 17 พ.ย. กองทุน K-VIETNAM K-VIETNAM-SSF และ KVIETNAMRMF ปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก +3.20% +2.79% และ +3.07% เทียบกับวันก่อนหน้า ตามลำดับ
ทำไมหุ้นเวียดนามถึงปรับตัวเพิ่มขึ้น
สาเหตุที่หุ้นเวียดนามปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดจากการฟื้นตัวกลับมาในแดนบวกหลังจากเกิดแรงเทขายหุ้นในกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มธนาคารในช่วง 2 วันที่ผ่านมา เนื่องจากตลาดคลายความกังวลเรื่องที่ตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ (HOSE) ถูกถอดออกจากการเป็นสมาชิกสหพันธ์ตลาดหลักทรัพย์นานาชาติ (WFE)
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากตลาดหุ้นเวียดนามเป็นตลาด Frontier Market ผู้ลงทุนส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนรายย่อย ตลาดจึงมีความผันผวนสูง อาจอ่อนไหวต่อบางข่าวหรือบางปัจจัยที่มากระทบ นักลงทุนควรหมั่นติดตามข้อมูลข่าวสาร อัปเดตสถานการณ์การลงทุนอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ทันต่อเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนในภาวะที่ตลาดมีความผันผวนสูง
มุมมองการลงทุนหุ้นเวียดนาม
● ระยะกลางถึงยาว (1 ปี ขึ้นไป) บลจ.กสิกรไทย ยังคงมุมมองบวกต่อการลงทุนในหุ้นเวียดนาม โดยปัจจัยภายในประเทศมีความน่าสนใจทั้งในแง่เศรษฐกิจที่ GDP ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) และการส่งออก อีกทั้งกำไรบริษัทจดทะเบียนยังเติบโตได้ในระดับสูง โดยคาดการณ์ปีหน้าไว้ที่ 18.7%
● เวียดนามยังมีปัจจัยสนับสนุนในการลงทุนระยะยาวจากจำนวนประชากรวัยแรงงานมีสัดส่วนสูงที่สุดในอาเซียน เอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อีกทั้งยังได้รับอานิสงส์จากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ทั้งสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตก ตลอดจนสถานการณ์ช่องแคบไต้หวัน ทำให้ภูมิภาคอาเซียนที่ค่อนข้างเป็นกลางทางภูมิรัฐศาสตร์ น่าจะได้รับประโยชน์ในระยะยาว
คำแนะนำการลงทุน
● ผู้ที่ถือกองทุนหุ้นเวียดนาม เช่น K-VIETNAM K-VIETNAM-SSF และ KVIETNAMRMF อยู่ แนะนำถือลงทุนต่อ ส่วนผู้ที่ต้องการลงทุนเพิ่มและรับความเสี่ยงได้สูง สามารถทยอยลงทุนเพิ่มได้ แต่ควรเป็นเงินที่สามารถลงทุนระยะยาวได้ตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป หรือตามเงื่อนไขของกองทุน SSF/RMF และควรมีสัดส่วนเงินลงทุนในกองทุนหุ้นเวียดนามไม่เกิน 5%-10% ของเงินลงทุนในส่วนของหุ้นและกองทุนหุ้นที่มีอยู่
● สำหรับผู้ที่ยังกังวลกับความผันผวนของตลาดหุ้น แนะนำพักเงินในกองทุน K-SF ซึ่งเหมาะกับการพักเงิน 3 เดือนขึ้นไป เพื่อรอจังหวะเข้าลงทุนอีกครั้ง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก KAsset, Finnomena, Ryt9
Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”
บทความโดย K WEALTH TRAINER สุวิมล ยิ่งเจริญรุ่งโรจน์ CFP®