Sign In

KBank Private Banking
02-8888811

Investment Advisory

หุ้นไบโอเทคยังน่าสนใจอยู่ไหม?

18 September 2022

​​​​​​​​ท่ามกลางความกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอยหรือไม่ ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่หันออกจากตลาดหุ้นและไม่สนใจที่จะเข้าลงทุน แต่หากพิจารณาข้อมูลย้อนหลัง 20 ปีในอดีต จะพบว่าหุ้นในหมวด Healthcare เป็นหุ้นที่ยังคงมีผลดำเนินงานที่เติบโตดีเมื่อเทียบกับหมวดอุตสาหกรรมอื่นๆ(ยกเว้นช่วงวิกฤติสินเชื่อบ้านสหรัฐฯ ปี 2008 ที่ผลดำเนินงานของ Healthcare ติดลบเพียงเล็กน้อย)

ดังนั้น หากนักลงทุนยังคงมีความกังวลเรื่องเศรษฐกิจที่อาจจะถดถอยแต่ก็ยังคงอยากมีสถานะการลงทุนในหุ้น หมวด Healthcare ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดี

ภาพ : ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในหมวดอุตสาหกรรมต่าง ๆ ของดัชนี S&P500​​

Picture1.jpg

ที่มา TISCO ESU และ Bloomberg

ด้วยพัฒนาการทางเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด ทำให้มีสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องมากมาย หนึ่งในสาขาที่น่าสนใจในช่วงนี้ก็คือเทคโนโลยีชีวภาพหรือไบโอเทค (Biotech)  ที่ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในด้านต่างๆ เช่น วัคซีนประเภท mRNA  ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้เป็นวงกว้างทั่วโลกในปี 2021 โดยมีบริษัทผู้ผลิตวัคซีนชั้นนำ อย่างเช่น Moderna และ Pfizer เป็นต้น

เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น เรามาดูกันว่าเทคโนโลยีชีวภาพ หรือไบโอเทคคืออะไร ?

เทคโนโลยีชีวภาพ หมายถึง การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีโดยนำเอาระบบของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กต่าง ๆ มาเข้าสู่กระบวนการแปรรูปผลิตภัณฑ์ เพื่อนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ทางด้านอุตสาหกรรม การแพทย์ หรือวิทยาศาสตร์ รวมถึงประโยชน์เฉพาะอย่าง

ตัวอย่างการนำไบโอเทคไปใช้ในด้านต่าง ๆ เช่น​

  • ด้านการเกษตรและอาหาร : การดัดแปลงพันธุกรรมของพืช อาทิ ข้าว เพื่อให้ปลูกได้ง่ายและใช้ต้นทุนน้อยลง หรือการวิจัยพัฒนาพันธุ์พืชให้มีความทนทานต่อแมลง หรือทนต่อสภาพอาการที่เปลี่ยนแปลงไป (GMO) รวมถึงนำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหาร แม้ฉันทามติทางวิทยาศาสตร์กล่าวว่าอาหารที่ได้มาจากพืชจีเอ็มโอไม่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพของมนุษย์แถมยังให้ประโยชน์ทางนิเวศวิทยาหากไม่ใช้มากเกินไป อย่างไรก็ตาม ยังมีการคัดค้านในเรื่องนี้เนื่องจากข้อกังวลเรื่องความปลอดภัย
  • ด้านอุตสาหกรรม : อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย การหมักอาหาร การใช้เชื้อจุลินทรีย์สำหรับย่อยสลาย เช่น การทำขนมปัง หรือการผลิตสารเคมีที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษมาใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น
  • ด้านสุขภาพและการแพทย์ : การคิดค้นยาหรือวัคซีนป้องกันโรคดั้งเดิมหรือโรคอุบัติใหม่ที่อาจพบได้ในอนาคต เช่น โรคโควิด-19 หรือการนำเซลล์มาทำวิจัยเพื่อรักษาโรคมะเร็ง การนำ DNA มารักษาโรค เป็นต้น
  • ด้านอื่นๆ :  การใช้แบคทีเรียในการรีไซเคิล บำบัดของเสียหรือทำความสะอาดสถานที่ปนเปื้อนจากกิจกรรมอุตสาหกรรม รวมถึงการผลิตอาวุธชีวภาพ ​
  • จะเห็นได้ว่านอกเหนือจากทางการแพทย์แล้ว สามารถต่อยอดเทคโนโลยีนี้ไปยังอุตสาหกรรมด้านอื่น ๆ อีกด้วยเช่นกัน

โดยสรุปแล้ว ไบโอเทค (Biotech) ถือเป็นเทคโนโลยีที่น่าสนใจในระยะยาว ซึ่งนอกจากประโยชน์ที่ให้กับโลกใบนี้ในหลาย ๆ ด้านแล้ว ในด้านสุขภาพไบโอเทคยังช่วยให้ผู้คนได้เข้าถึงการรักษาที่มีราคาถูกลงและรักษาได้อย่างตรงจุด ช่วยลดภาระทางการเงินของผู้ป่วย รวมถึงการคิดค้นเพื่อรักษาโรคใหม่ ๆ หรือโรคเดิมที่ยังไม่สามารถรักษาได้ จึงยังคงสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งนักวิเคราะห์อย่าง Grand View Research ประเมินว่ามูลค่าตลาดของไบโอเทคจะมีโอกาสเติบโต 13.9% ต่อปีได้ ในช่วงปี 2022-2030

สำหรับตลาดหุ้นไทย อาจจะยังไม่มีบริษัทที่พัฒนาด้านไบโอเทคโดยตรง ทำให้เป็นอุปสรรคสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในธุรกิจด้านไบโอเทค ทำให้ต้องหันไปลงทุนต่างประเทศแทน  ซึ่งในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา หุ้นไบโอเทคในต่างประเทศ อย่าง iRhythm Technologies ราคาหุ้นปรับขึ้น +43% เนื่องจากได้รับประโยชน์จากโมเมนตัมที่แข็งแกร่งจาก Zio Patch ซึ่งเป็นเครื่องตรวจสอบการเต้นของหัวใจ ช่วยให้แพทย์สามารถบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจได้อย่างต่อเนื่องและช่วยตรวจสอบการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ ตามมาด้วย Twist Biosciences ที่ราคาปรับขึ้น 25% ผู้เชี่ยวชาญด้าน DNA สังเคราะห์ เป็นต้น

ดังนั้น  หากนักลงทุน ยังคงกังวลว่าทิศทางตลาดหุ้นจะไปทางไหน  หุ้นในหมวด Healthcare อาจจะเป็นคำตอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มไบโอเทค ก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีได้เช่นกัน

ที่มา: TNN Online​​​​​​​​

Recommended Content

Investment Advisory