Display mode (Doesn't show in master page preview)
Skip Ribbon Commands
Skip to main content
Investment
Investment: ทางเลือกในการลงทุนและจัดพอร์ตในปี 2555

จากการคาดการณ์ทิศทางแนวโน้มเศรษฐกิจและการลงทุนปี 2555 หลายสำนักระบุชัดเจนว่า เศรษฐกิจของไทยจะขยายตัวไปในทิศทางบวก อัตราการเติบโตน่าจะสูงขึ้นถึงกว่าร้อยละ 4 การลงทุนจึงน่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่ภาพรวมเศรษฐกิจและการลงทุนนั้นเป็นผลมาจากภาวะที่ไม่ปกติ อันเนื่องมาจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปลายปี 2554 ส่งผลให้การเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4 ของปี 2554 ติดลบ จึงทำให้ฐานที่จะนำมาวัดการเติบโตของเศรษฐกิจในปี 2555 ค่อนข้างต่ำ ปีนี้จึงเป็นปีแห่งการกระเตื้องขึ้น แต่จะอยู่ภายใต้ภาวะความไม่แน่นอน ของหลายปัจจัย “เศรษฐกิจไทยเติบโตขึ้นแน่นอน เพราะปี 2554 เราถดถอยอย่างรุนแรง แต่ไม่ได้หมายความว่า เป็นปีที่สดใส เพราะปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวมก็คือภาวะเศรษฐกิจโลก”

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยให้ข้อมูลสำคัญว่าคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปี 2555 จะไม่สดใส เนื่องจากปัจจัยหลักคือ ปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปที่ยังไม่มีท่าทีคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น อีกปัจจัยคือ สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของยุโรป สภาพเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวดีจากวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ ซ้ำยังมีปัญหาเรื่องดุลงบประมาณตามมา เพียงสอง ปัจจัยดังกล่าวได้ส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกโดยรวมให้อยู่ในทิศทางชะลอตัวค่อนข้างแรงได้ เพราะสหรัฐฯและยุโรป เป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกรวมกันถึงเกือบร้อยละ 50

ในขณะที่เศรษฐกิจเอเชียแม้จะยังเดินหน้าต่อไปได้ แต่จะเติบโตในทิศทางที่ลดต่ำลงเพราะเอเชียพึ่งพาการส่งออก ไปยังยุโรปและสหรัฐอเมริการค่อนข้างมาก เมื่อประเทศคู่ค้ารายใหญ่มีปัญหา ย่อมทำให้การส่งออก ซึ่งสร้างรายได้ หลักให้กลุ่มประเทศในเอเชียต้องชะลอตัวตามไปด้วย ดังนั้นปีนี้จะได้เห็นความร่วมมือทางการค้าของกลุ่มประเทศ ในเอเชียกันมากขึ้น เพื่อให้เกิดความช่วยเหลือระหว่างกันในภูมิภาค และที่สำคัญประเทศยักษ์ใหญ่ในเอเชีย เช่น จีนและอินเดีย จะหันไปพึ่งพาการบริโภคภายในประเทศมากขึ้นด้วย ส่วนราคาโภคภัณฑ์อาหารจะทรงตัวอยู่ในระดับ สูงขึ้นขณะที่โภคภัณฑ์อื่นๆ เช่น เหล็ก ทองแดง น้ำมัน จะอ่อนตัวลงไปตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

สำหรับประเทศไทยมองว่า “มีสองปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อคือ ฐานที่ต่ำลงในปี 2554 และเม็ดเงินลงทุน ที่จะต้องใช้ในการฟื้นฟูประเทศจากวิกฤติ น้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์อัตราเติบโตทางเศรษฐกิจไทย ไว้ประมาณร้อยละ 4.3 ”

จัดพอร์ต CONSERVATIVE ปลอดภัยที่สุด

ตลาดหุ้นปี 2555 ทั่วโลกกล่าวได้ว่าอยู่ในสภาพที่ไม่สดใสนัก เพราะเมื่อเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ผลประกอบการของบริษัทต่าง ๆ ก็ลดลงไปด้วย แต่หากจะแยกดูเป็นรายภูมิภาคตลาดหุ้นในเอเชียยังถือว่ามีอัตราเติบโตดีกว่ายุโรป และอเมริกามาก คำแนะนำในการลงทุนปี 2555 ต้องยึดแนวทางอนุรักษ์นิยมเพื่อลดความเสียหายจากการลงทุน เนื่องจากปัจจัยความไม่แน่นอนมีสูงมาก ทั้งเรื่องของภัยพิบัติธรรมชาติที่บ่งชี้ถึงความรุนแรงและความถึ่ในการเกิด เรื่องของปัจจัยทางการเมือง (Geopolitics) ของหลายประเทศที่มีการเปลี่ยนแปลงผู้นำ และมีความไม่แน่นอนอันเกิดจากการต่อต้านของผู้ใต้ปกครอง กับผู้ปกครอง

“ทุกคนคาดได้ว่าจะเกิดความไม่แน่นอนแต่บอกไม่ได้ว่าจะเกิดเมื่อใด เกิดอย่างไร และนานแค่ไหน ทุกครั้งที่นักลงทุนเริ่มวิตกก็จะกลับไปลงทุนในดอลลาร์สหรัฐ ผลก็คือ ปี 2555 มีโอกาสสูงที่ค่าเงินเหรียญสหรัฐจะแข็งค่าขึ้นซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกระเป๋าของผู้ส่งออกและนำเข้าของไทยแน่นอน”

 
 
 

สำหรับตลาดทองคำ คุณวิวรรณให้มุมมองว่า สถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลกที่ลดต่ำลงอย่าง ต่อเนื่องในช่วงปลายปี 2554 บ่งชี้ว่ารอบการลงทุนในทองคำจะอยู่ในขาลงแม่ราคาจะไม่เหวี่ยงตัวรุนแรง จึงถือเป็นสินทรัพย์เสี่ยง หากคิดจะลงทุนในช่วงที่ราคาลง เพราะยังคาดการณ์ไม่ได้ว่าราคาจะดีดกลับขึ้นมาเมื่อไรแต่ในระยะปานกลาง ทองคำมีโอกาสจะปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากผู้ลงทุนยังคงต้องการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์อื่นที่ไม่ใช่พันธบัตรรัฐบาล หรือเงินดอลลาร์สหรัฐ หรือเงินยูโร และด้วยภาวะความผันผวนที่เอง โอกาสทำกำไรจากการลงทุนทนทองคำรอบใหม่ในปี 2555 จึงยังมีแต่อาจเป็นช่วงสั้น ๆ ภาวะเช่นนี้จะทำให้นักลงทุนมีความวิตกค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามหากลงทุนและจัดพอร์ตด้วยความระมัดระวังก็สามารถได้รับผลตอบแทนที่คาดหวังได้

ลำดับความปลอดภัยในการลงทุนจากมากไปหาน้อยคือ เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ เงินสกุลเยนญี่ปุ่น ทองคำ พันธบัตร ตราสารหนี้หุ้น และสินค้าโภคภัณฑ์ คำแนะนำในการลงทุนปี 2555 คือ เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยให้มากขึ้น


เตรียมรับความเสี่ยงอย่างไร

คำแนะนำสำหรับการเตรียมรับมือความเสี่ยงและควมผันผวนที่จะเกิดขึ้นในปี 2555 ซึ่งส่งผลกระทบต่อความรู้สึกเชื่อมั่นของนักลงทุน นั่นคือ เมื่อทุกคนตระหนักดีกแล้วว่า ความเสี่ยงสำคัญที่จะทำให้เกิดความผันผวนในการลงทุนมากจาก 2 ส่วน ได้แก่ ภัยพิบัติ และปัจจัยความไม่แน่นอนทางการเมืองซึ่งเกิดขึ้นได้ทั่วโลก เช่น การเปลี่ยนแปลงผู้นำเกาหลีเหนือ สถานการณ์ความไม่สงบในแอฟริกาเหนือและบางประเทศในตะวันออกกกลางรวมทั้งประเทศไทย เหล่านี้แสดงให้เห็นพลังของประชาชนและ Social Media ที่เป็นตัวกลางในการรวบรวมความคิดของประชาชนผู้อยู่ใต้ปกครอง สถานการณ์เช่นนี้ทำให้การลงทุนยากขึ้น เพราะสภาพแวดล้อมทางธุรกิจเปลี่ยนไป วิธีที่ดีที่สุดสำหรับนักธุรกิจคือ ทำธุรกิจให้โปร่งใสและมีความรับผิดชอบต่อสังคมให้มากขึ้น ในส่วนของผู้ส่งออกและนำเข้า ซึ่งรับผลกระทบโดยตรงจากภาวะซบเซาของเศรษฐกิจโลก จะต้องติดตามสถานการณ์การเงินให้ดี และต้องป้องกันความเสี่ยงในหลาย ๆ ทางตัวอย่างการลดความเสี่ยง เช่น การกระจายพอร์ตการลงทุน การทำประกันภัย ธุรกิจ และรู้จักใช้เครื่องมือทางการเงิน เช่น ฟิวเจอร์ฟอร์เวิร์ด เพื่อป้องกันความผันผวนของการลงทุน ทั้งในสกุลเงินบาท และเงินตราต่างประเทศ

“ เรียกได้ว่าปี 2555 เป็นปีปราบเซียนโดยแท้ ขอให้นักลงทุนมีความระมัดระวังให้มาก ในสถานการณ์เช่นนี้ แม้นักลงทุนจะเป็นผู้จัดสรรพอร์ตการลงทุนของตัวเอง แต่เพื่อความปลอดภัย ควรปรึกษานักวางแผนการเงินหรือที่ปรึกษาการลงทุนอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การลงทุนยังสร้างผลตอบแทนให้ตามที่คาดหวัง แม้จะอยู่ในสถานการณ์แห่งความผันผวนก็ตาม ”

AUTHOR


คุณกวี ชุกิจเกษม
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ หลักทรัพย์ กสิกรไทย

RELATED STORY